นิสัยแห่งความสำเร็จ
สรุปจากหนังสือของเฮนรี ทอย
ในอดีตคนมีความรู้มาก เราเรียกว่าคนฉลาด แ่ต่ปัจจุบันรู้มากอย่างเดียวไม่พอ คนมีไอคิวสูงไม่ได้เป็นตัวบ่งบอกความสำเร็จในอนาคตได้ การใช้ชีิวิตอย่างฉลาดจำเป็นต้องมี
"ทักษะในการคิด"
ทักษะอะไรที่นักเรียนจะสามารถนำไปใช้ในอนาคตอีก 10-20 ปีต่อจากนี้ เพื่อให้รู้จักคิดมากขึ้น ไตร่ตรองมากขึ้นและสร้างสังคมแห่งภูมิปัญญาได้
โลกเราผ่านยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม ปฏวัติข่าวสาร ปฏิวัติคอมพิวเตอร์และปฏิวัติระับบการสื่อสารทางไกล ทำให้วิธีคิด วิธีสื่อสารและการใช้ชิวิตของเราเปลี่ยนไป แต่การศึกษาและแนวทางที่ได้รับการสั่งสอนมาส่วนใหญ่แทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ซึ่งไม่เข้ากับ "ความต้องการของโลกแห่งความเป็นจริง"
การเรียนรู้ในยุคโบราณให้ความสำคัญน้อยกับ สมอง แต่ในช่วงทศวรรษที่ 19 ไ้ด้รับการขนานนามให้เป็น ทศวรรษแห่งสมอง มีนวัตกรรมด้านเครื่องมือและวิธีการวินิจฉัยสมองและการทำงานของสมอง
ปัจจุบันนี้เราให้ความสำคัญกับการพัฒนาสมองตั้งแต่ก่อนคลอดและหลังคลอด ว่ามีส่วนสำคัญในการเรียนรู้ โดยเฉพาะในช่วง 3 ปีแรกของชีวิต ซึ่งวิถีประสาทจะเติบโตอย่างรวดเร็ว เด็กที่มีโอกาสเรียนรู้มากกว่าก็จะมีสมองที่การเชื่อมโยงของใยประสาทหนาแน่นกว่าเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่
ยุคสมัยเปลี่ยนไป ความรู้ก็เปลี่ยนแปลง ไม่มีคำว่าเร็วเกินไป การเรียนรู้ปรัชญาสามารถเพิ่มพูนทักษะการคิดที่สำคัญๆ เด็กประถมก็สามารถคิดเชิงปรัชญาได้แล้ว และ ไม่มีคำว่าสายเกินไป คนแก่ก็สามารถยกระดับความสามารถในการเรียนรู้ได้ด้วย มีการค้นพบว่าสมองของผู้สูงอายุยังคงมีการแบ่งตัวได้อยู่ สามารถให้กำเนิดเซลล์และสร้างเซลล์ประสาทใหม่ตลอดชีวิต
กุญแจที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในยุคใหม่นี้ คือ ความสามารถในการคิดอย่างมีัทักษะ เราต้องเปลี่ยนแปลงวิธีคิดจากการสอนให้รู้วิธีหาคำตอบไปสู่การสอนให้รู้วิธีการปฏิบัติตนและคิดอย่างไรเมื่อไม่มีคำนอบให้เห็น ด้วยการสร้างนิสัยทางความคิด 7 ประการ ที่เรียกว่าเป็นนิสัยคิดดี หรือ SUCCESS ดังนี้
- S ความยืดหยุ่นในการคิด
- U ความเข้าใจโลกรอบตัว
- C คิดดีคิดชอบต่อตัวเองและผู้อื่น
- C กล้าคิดและกล้าที่จะิคิดต่าง
- E ความถูกต้องแม่นยำในการสื่อความและกระบวนการคิด
- S มีทักษะในการจัดการตัวเอง
- S มีทักษะในการใช้ "ความไร้สาระ" โดยใช้อารมณ์ขันใการคิดและสื่อความ
No comments:
Post a Comment